70 ไอเดียเขียนบล็อก บทความแนว SEO เพิ่มยอดวิวดันยอดขายให้เว็บไซต์

เขียนบล็อก เป็นวิธีเพิ่มเนื้อหาบนเว็บไซต์ ที่ผู้ทำเว็บไซต์นิยมทำ เพราะใช้ต้นทุนน้อย แต่สร้างมูลค่าให้กับเว็บได้ระยะยาว และเป็นพื้นที่ที่ผู้ใช้งานควบคุมได้มากกว่าโซเชียลมีเดีย

เป้าหมายกว้างๆ ของการ เขียนบล็อก หรือบทความคือ การสร้างยอดเข้าชมเว็บไซต์ โดยที่แต่ละเว็บก็มีเป้าหมายเฉพาะของตัวเองแตกย่อยไปอีก เช่น เพื่อขายสินค้าบนเว็บไซต์ เพื่อรับโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อให้ความรู้ ฯลฯ

การสร้างบล็อกไม่จำเป็นต้องมีจุดเริ่มต้นอะไรยิ่งใหญ่ แค่เริ่มเขียนตามประเด็นหลักของเว็บไซต์หรือความสนใจของคนเขียน ใครที่กำลังคิดว่าจะใช้การเขียนบทความเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างธุรกิจออนไลน์ และอยากหาไอเดียการ เขียนบล็อก ที่สามารถทำได้เรื่อยๆ และสร้างยอดเข้าชมได้จริง WOW รวบรวมมาให้ 70 ไอเดีย จาก 9 หมวดของการเขียน ซึ่งรับรองว่าครอบคลุมการ เขียนบล็อก ทุกประเภทแน่นอน

เขียนบทความแนวความรู้ ประโยชน์เพื่อนำไปใช้จริง

1. เช็คลิสต์ต่างๆ – ลิสต์รายการต่างๆ เป็นบทความยอดนิยมที่เหมาะสำหรับโลกยุคปัจจุบันที่ต้องการใช้ลิสต์สำเร็จรูปในการลดความวุ่นวายในการใช้ชีวิต เช่น ลิสต์การแพ็คกระเป๋าเดินทางไปเกาหลี 1 สัปดาห์ช่วงหิมะตก

2. คลังคำศัพท์ – คำศัพท์ของแวดวงอาชีพหรือการทำงานต่างๆ มักได้รับการค้นหาตลอดเวลา ขอแค่อัปเดตข้อมูลเรื่อยๆ รับรองว่า ยอดวิวสูงแน่นอน เช่น ศัพท์การตลาด ศัพท์ครัวฝรั่งเศส ศัพท์แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล

3. อธิบายคอนเสปต์พื้นฐานของเรื่องต่างๆ – คล้ายกันกับข้อ 2 แต่การอธิบายคอนเสปต์จะเล่าคำจำกัดความและอธิบายข้อมูลพื้นฐานของวงการอาชีพหรือการงาน เช่น การตลาดเบื้องต้น, โฆษณา Facebook พื้นฐาน

4. คำถามที่ถามบ่อย – FAQ ย่อมาจาก Frequent Asked Questions คือ คำถามที่ถูกถามบ่อย เว็บไซต์ธุรกิจสามารถสร้างบล็อก FAQ ขึ้นได้ เพื่อช่วยพากลุ่มเป้าหมายเข้ามา สร้างความเข้าใจที่ส่งผลดีต่อธุรกิจได้ตามที่ต้องการ หรือขายผลิตภัณฑ์ได้

5. ทิปส์ เคล็ดลับต่างๆ – ใครๆ ก็ชอบเคล็ดลับช่วยให้ทำอะไรสักอย่างได้ง่ายขึ้น สิ่งสำคัญคือ เคล็ดลับเหล่านั้นต้องให้ผลดีจริงหรือสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ผู้ที่ปฏิบัติได้

6. ข้อดีข้อเสีย – กินอาหารคีโตหรืออดอาหาร IF? กินคลีนหรือกินอาหารปกติแต่ออกกำลังกายเสริม? คอมพิวเตอร์แมคหรือวินโดวส์? กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตมักมีการเปรียบเทียบเข้ามามีส่วนร่วมเสมอ

ถ้าเว็บของคุณขายของอะไรสักอย่าง หัวข้อเปรียบเทียบสามารถโยงเข้าการขายได้อย่างแนบเนียนที่สุด

7. เทคนิคใหม่ – ถ้าเว็บไซต์ของคุณมุ่งไปที่เรื่องเฉพาะทางอะไรสักอย่าง การนำเสนอเทคนิคใหม่ในเรื่องที่คุณถนัด เป็นวิธีสร้างบล็อกที่น่าสนใจ ซึ่งเครดิตของเว็บจะช่วยส่งเสริมให้เทคนิคใหม่ที่คุณนำเสนอมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

8. บอกผู้อ่านว่าทำไมสิ่งนี้ถึงจำเป็นสำหรับพวกเขา – อธิบายหรือแสดงความคิดเห็นว่าทำไมสิ่งที่คุณนำเสนอถึงจำเป็น โดยมีหลักฐานหรือข้อมูลมายืนยันความเชื่อนี้ เช่น 9 เหตุผล ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ควรมี Sale Page ของตัวเองตั้งแต่ตอนนี้

เขียนบล็อก, การเขียนบทความ, ทำเว็บไซต์, วิธีสร้างบล็อก, การเขียน blog,

9. สถิติหรือแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ – สถิติ เป็นสิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูลต่างๆ รวมถึงบล็อกด้วย ซึ่งเว็บไซต์สามารถนำข้อมูลเหล่านี้มารวมเป็นบทความเรื่องหนึ่งได้เลย

แต่ก็ควรเป็นข้อมูลที่มีคุณค่าพอสำหรับการค้นหา เช่น รวมสถิติการตลาดที่น่าสนใจในปี 2020 เทรนด์เครื่องสำอางค์ที่น่าจับตามองปี 2020

10. ทำแบบสำรวจ งานวิจัย และเฉลยผล – เว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมเยอะและมีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้งานกับเว็บหรือ Engagement ในระดับหนึ่ง สามารถทำผลสำรวจได้

ควรชี้แจงบนหน้าเว็บด้วยว่า ผลสำรวจนี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไร มีประโยชน์กับผู้ร่วมทำแบบสำรวจอย่างไร และอย่าลืมแชร์ผลนี้ในหน้าเว็บเดียวกับที่ทำแบบสอบถามตอนแรกด้วย

11. ชี้แจงความเข้าใจผิดหรืออคติ – เซลล์แมนเป็นอาชีพที่ชอบโกหกคน คนขายประกันชอบขายของที่ไม่จำเป็น การเมืองเป็นเรื่องไกลตัว ทุกวงการมีข่าวลือหรือความเข้าใจผิดลักษณะนี้

คุณสามารถเขียนบล็อกเพื่อชี้แจงข้อมูลในมุมที่คุณเชี่ยวชาญ โดยยึดหลักเหตุผลและความรู้ที่แท้จริง นึกไว้เสมอว่า การเขียนนี้เพื่อให้ผู้คนทราบแง่มุมของคนที่คลุกคลีในวงการนั้นจริงๆ

12. แจกแบบสำเร็จรูป – ใครๆ ก็ชอบแบบสำเร็จรูปหรือ Template ที่ช่วยให้การทำงานหรือการเรียนง่ายขึ้น เช่น แบบเรซูเม่สมัครงาน แบบรายงานผล SEO แบบทำนามบัตรธุรกิจส่วนตัว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดจากหน้าเว็บของเราได้ และใช้พื้นที่บล็อกเขียนอธิบาย Template แต่ละอัน

13. เคล็ดลับที่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ประกอบ – วิทยาศาสตร์คือหลักการของเหตุและผล เหตุผลคือความจริงที่ยากจะหาสิ่งมาหักล้าง เคล็ดลับหรือทิปส์ที่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ประกอบจึงมักได้รับความนิยมและเชื่อถือมาก

เช่น เคล็ดลับทำให้เดตครั้งแรกชวนประทับใจโดยใช้หลักทางวิทยาศาสตร์ เคล็ดลับการทำอาหารให้อร่อยขึ้นโดยใช้หลักวิทย์แบบง่ายๆ

14. ช่วยตัดสินใจ – ความรู้ความเข้าใจทำให้คนเราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ลองเขียนบล็อกที่ช่วยผู้อ่านตัดสินใจง่ายขึ้นดู เช่น เว็บไซต์ขายทัวร์เขียนเรื่อง “20 สิ่งที่นักท่องเที่ยวควรรู้ก่อนจัด road trip เองแบบไร้ผู้นำทัวร์”, เว็บให้เช่าหรือขายบ้านในกรุงเทพเขียนเรื่อง “15 เรื่องที่ควรรู้ก่อนซื้อบ้านแบบทาวน์เฮาส์/คอนโดขนาดเล็ก 30 ตร.ม.”

15. เล่าบทเรียนที่ได้จากคนสำคัญ – การได้พูดคุยกับคนสำคัญ อ่านหนังสือสักเล่ม หรือท่องเที่ยวสถานที่ใหม่ๆ สักแห่ง สามารถนำมาเขียนบอกเล่าเป็นความรู้หรือวิทยาทานในเว็บไซต์ได้ เช่น 9 เรื่องที่ฉันได้เรียนรู้จากการสัมภาษณ์ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ในช่วงโควิด, 5 เรื่องที่คนขายของได้เรียนรู้จากการขายของออนไลน์แบบไม่มีหน้าร้าน

16. สรุปหนังสือ – กระแสของหนังสือเสียง หรือคลิปย่อสรุปหนังสือ กำลังมาแรง เพราะผู้คนสมัยนี้มีธุระรัดตัวมาก จนเกิดประเด็นว่าไม่สามารถอ่านหนังสือได้ด้วยตัวเอง การสรุปหนังสือหรือเล่าเนื้อเรื่องโดยย่อให้จึงมีความต้องการสูงในหมู่ผู้เสพสื่อทุกวันนี้

17. แชร์ทิปส์เพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องบางอย่าง – คนเราอยากทำอะไรให้ได้มากขึ้นในเวลาที่จำกัดเสมอ หรือเพิ่มประสิทธิภาพในงานที่ทำ เคล็ดลับเหล่านี้ได้รับความสนใจเสมอ เช่น 9 ทิปส์ใช้ Zoom วิดีโอคอล ได้คล่องและสนุก!, 10 วิธีใช้ LINE OA ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

รับทำ sale page

เขียนบทความการเรียนรู้ ฮาวทู How-To

18. เส้นทางสู่ความสำเร็จหรือการเรียนไปสู่ความรู้ขั้นสูงสุด – สมัยนี้ คนเรียนรู้ด้วยตัวเอง เรียนออนไลน์ E-Learning กันมากขึ้น บล็อกเขียนแนะนำเส้นทางขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ เช่น เส้นทางหลักสูตรการเรียนทำ SEO ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงมืออาชีพ ระดับการเรียนทำครัวไทยตั้งแต่เริ่มต้นถึงระดับมืออาชีพ

19. อธิบายวิธีการทำอะไรสักอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ – เขียนแนะนำการทำอะไรสักอย่าง ทีละขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนจบ ถ้ามีภาพประกอบด้วยในทุกขั้นตอนหรือมีคลิปวิดีโอตอนทำจะได้รับความนิยมสูง เช่น วิธีทำเมนูผัดไทใส่กุ้งแม่น้ำ วิธีล้างแอร์ด้วยตัวเอง

20. อธิบายวิธีเป็นผู้เชี่ยวชาญ – หลายคนเรียนรู้ไม่ใช่แค่เพราะอยากรู้แต่อยากไต่เต้าเป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ที่สนใจ หากเว็บไซต์ของคุณเป็นศาสตร์เพื่ออาชีพ ยิ่งถ้ากำลังเป็นที่นิยม หัวข้อเขียนบล็อกนี้เป็นหัวข้อที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เช่น วิธีเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ใน 8 ขั้นตอน

21. อธิบายว่าสิ่งต่างๆ ทำงานอย่างไร – หาหัวข้อในแวดวงของคุณที่คนสนใจอยากรู้และอธิบายการทำงานของมันแบบทำนองตีแผ่ให้เห็นภาพชัดเจน เช่น SEO ทำงานอย่างไรบนระบบค้นหา

22. อธิบายวิธีการทำงานขั้นสูง – ข้อนี้จะแตกต่างจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญ โดยวิธีการทำงานขั้นสูงจะค่อนข้างแคบลงมา จะแนะนำเฉพาะเรื่อง เช่น การเชี่ยวชาญเรื่อง SEO หัวข้อที่แคบลงมาก็เช่น การทำให้ติด Snippet, การเพิ่ม Backlink ในเวลารวดเร็ว

23. แนะนำวิธีการทำสิ่งต่างๆ แบบมีทางเลือก Interactive Guide – แต่ละคนมีจุดเริ่มต้นไม่เท่ากัน ทำสิ่งต่างๆ ออกมาได้ผลลัพธ์ไม่เท่ากัน หรือการทำบางอย่างมีผลลัพธ์ออกมาได้หลายแบบ บล็อกแนวคู่มือแบบมีทางเลือกก็เป็นอีกตัวเลือกเขียนบล็อกหนึ่งที่น่าสนใจ เช่น วิธีทำให้เว็บติดหน้าแรก Google (Interactive Guide)

24. วิธีการสร้างแบบมีกรณีศึกษา – กรณีศึกษาช่วยให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น โดยเฉพาะงานบางอย่างที่มีความเฉพาะตัว เช่น วิธีทำร้านขายขนมให้อยู่รอดในช่วงโควิด (กรณีศึกษาจากร้าน After You)

25. วิธีซ่อม – การเสียหายและการซ่อมแซมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน และเป็นหัวข้อที่คนค้นหาอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นแวดวงอะไร เช่น วิธีแก้รอยขีดข่วนรถ วิธีซ่อมกางเกงยีนส์ที่เป็นรู วิธีช่วยชีวิตโทรศัพท์ที่ตกน้ำหรือโดนน้ำหกใส่

เขียนบล็อก, การเขียนบทความ, ทำเว็บไซต์, วิธีสร้างบล็อก, การเขียน blog,

เขียนเรื่องคนดัง ดารา

26. ประวัติคนดังในวงการที่เว็บไซต์ของคุณอยู่ – ข้อมูลของคนดังได้รับการค้นหาตลอดเวลาไม่มากก็น้อย แต่มีโอกาสจะมากขึ้น หากคนดังเหล่านั้นเป็นข่าว เช่น เว็บไซต์ขยเครื่องสำอาง เขียนประวัติของผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องสำอางที่กำลังมาแรงในปี 2020

27. วิธีการทำอะไรสักอย่างโดยคนดัง – คนดังมักถูกนำมาเป็นแบบอย่างในการทำอะไรสักอย่างอยู่แล้ว การสรุปเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับความสำเร็จของคนดัง เป็นเรื่องราวที่ใครๆ ก็อยากอ่านทั้งจากความสำเร็จและความเป็นคนดัง เผื่อทำตามบ้าง

เช่น 8 เคล็ดลับรักษาหุ่นสวยของนางฟ้าตัวท็อปของวิคตอเรียซีเคร็ต, ขั้นตอนแต่งหน้าออกงานของญาญ่า, วิธีรักษาระดับความร่ำรวยในยุคข้าวยากหมากแพง 2020 ของเศรษฐีตระกูลเจียรวนนท์

28. รายชื่อคนดัง – คนดังในวงการที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณมีใครบ้าง และจะติดตามพวกเขาได้จากช่องทางไหน เช่น เว็บขายทัวร์เขียนบทความเรื่อง “10 บล็อกเกอร์สายท่องเที่ยว ที่ฮอตที่สุดในเวลานี้”

29. สัมภาษณ์คนดัง – การสัมภาษณ์เพิ่มความพิเศษ แตกต่างไม่เหมือนใครให้กับเว็บไซต์ได้ดีมากอย่างไม่ต้องพยายามอะไรเลย เรียงลำดับการพูดคุยให้ดี คิดประเด็นหลักของการสัมภาษณ์ให้เฉียบคม มีภาพประกอบสวยๆ ที่เข้ากับเนื้อหา

แม้การสัมภาษณ์จะเป็นความคิดเห็นหรือคำพูดในช่วงเวลานั้นแต่ก็มีคุณค่าที่น่าเปิดอ่านได้เรื่อยๆ

30 คำแนะนำจากคนดัง – ข้อนี้จะคล้ายกันกับวิธีการของคนดัง แต่จะพิเศษที่คนดังเป็นคนพูดแนะนำเอง

เขียนคำแนะนำ รีวิว

31. แนะนำบล็อกที่น่าติดตาม – กลุ่มผู้อ่านบล็อกของคุณอาจเป็นนักอ่านบล็อกตัวยง ลองเขียนแนะนำผู้อ่านว่า บล็อกอื่นๆ ที่น่าอ่านมีเจ้าไหนบ้าง อาจแสดงความเห็นเพิ่มเติมไปก็ได้ว่าข้อดีหรือจุดเด่นของแต่ละบล็อกคืออะไร เพิ่มความ insight ให้กับบล็อกของคุณ

32. แนะนำหนังสือ – ทุกวงการมีตำราหรือหนังสือของตัวเอง เขียนบล็อกแนะนำหนังสือที่น่าอ่านก็เป็นไอเดียที่คนนิยมใช้ เช่น 3 หนังสือการตลาดที่น่าอ่านในช่วงโควิด

33. แนะนำรายการพอดแคสต์ ช่องยูทูบ คลิป – นักอ่านส่วนมากเสพข้อมูลหลายช่องทาง คลิปวิดีโอหรือพอดแคสต์ก็เป็นช่องทางที่พวกเขาสนใจ ลองเขียนแนะนำช่องทางเหล่านี้ ข้อนี้คล้ายกันกับแนะนำหนังสือ

34. แนะนำการประชุม สัมมนา อีเวนท์ – เขียนแนะนำการประชุมหรืองานนิทรรศการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของเว็บไซต์ เพราะส่วนมากไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ไปงานเหล่านี้ ซึ่งผู้อ่านอาจเป็นคนที่สนใจและอยากหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าจะไปร่วมดีไหม หรือความรู้ที่ได้จากงานนี้

หรือถ้าผู้เขียนบล็อกเคยไปร่วมงานสัมมนามาเยอะ หรือคิดว่าผู้อ่านน่าจะสนใจงานเหล่านี้ อาจรวมรายชื่องานสัมมนาที่น่าสนใจก็ได้

35. รวมลิสต์ดีที่สุด – ถ้าไม่ใช่ดีที่สุด ก็เป็นที่สุดอื่นๆ อะไรก็ได้ เช่น สวยที่สุด คนใช้เยอะที่สุด หรือจะฉีกแนวเป็นแย่ที่สุดก็ได้ แต่ต้องระวังการเขียนเชิงกล่าวหาว่าร้าย เพราะอาจทำให้เกิดการพิพาทกันได้ 

อ่าน : 10 โปรแกรมหา Keyword เพื่อทำ SEO ดีที่สุด แม่นตามคนค้นจริง

36. รีวิวสินค้าใหม่ – สินค้าใหม่ เป็นกลุ่มสินค้าที่มีการค้นหาในอินเตอร์เน็ตมากที่สุด เพราะนอกจากการหาที่ซื้อ ราคา แล้ว ก็ยังมีการหาวิธีการใช้ ข้อดีข้อเสีย และข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น รีวิว อ่างอาบน้ำ Xiaomi ที่ทางแบรนด์เคลมว่าเป็นสินค้าที่ทุกบ้านอยากมี

37. รีวิวสินค้ายอดนิยม – บทความรีวิวสินค้ากับรีวิวสินค้าตามหน้าขายสินค้าให้ความรู้สึกที่ต่างกัน เพราะบทความจะมีเนื้อที่เขียนข้อความและใส่ภาพมากกว่า ผู้สนใจจะได้เห็นเนื้อหาที่จุใจ และมากพอสำหรับการตัดสินใจซื้อสินค้าได้ เช่น รีวิวเตาอบ Balmuda ยอดฮิตในหมู่แม่บ้านสายญี่ปุ่น

38. เปรียบเทียบสินค้า – เปรียบเทียบลักษณะ ข้อดีข้อเสีย ราคาของสินค้า จะเปรียบเทียบแค่ 2 ชิ้น หรือเปรียบเทียบสินค้าหลายชิ้นก็ได้

แต่ถ้าเปรียบเทียบ 2 ชิ้น ควรเสนอข้อมูลในเชิงลึก เพื่อเพิ่มจุดขายให้กับเนื้อหา เช่น Sale Page กับ แพลตฟอร์มขายของ: คนขายของออนไลน์ควรเลือกขายที่ไหนให้ได้กำไรมากกว่า?

39. รีวิวคอร์สออนไลน์ – เพราะเดี๋ยวนี้ผู้เรียนหันมาศึกษาหาความรู้บนออนไลน์มากขึ้น และจะเป็นเรื่องที่ปกติมากขึ้นในอนาคต บทความเกี่ยวกับ คอร์สออนไลน์ที่น่าสนใจหรือนิยมเรียนจะเป็นที่นิยมมากขึ้น ซึ่งเรื่องของความรู้เข้าได้กับเว็บไซต์ธุรกิจทุกสาย เพียงแค่หาแง่มุมที่เข้ากันให้เจอ

40. รีวิวภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับวงการของเว็บไซต์ – เช่น รวมภาพยนตร์ที่นักขายเซลส์แมนต้องดู

41. รีวิวสถานที่ทำงาน – หลายเว็บไซต์เป็นขององค์กรมีชื่อเสียงหรือมีฐานผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง ลองทำบทความแนวเปิดบ้านให้คนเห็น ช่วยในเรื่อง Branding และการเข้าถึงผู้คนได้

42. รีวิวของในกระเป๋า – หัวข้อยอดนิยมของเว็บไซต์ ยูทูบ แนวไลฟสไตล์ ของใช้ เครื่องสำอาง ที่ใช้ได้ตลอดเวลาไม่จำกัดเวลาหรอฤดูกาล

เขียนเล่าประสบการณ์ตรง เรื่องจริงจากตัวเอง

43. เริ่มต้นอาชีพการทำงาน – อาชีพทุกอาชีพมีความน่าสนใจในตัวเอง ลองเรียบเรียงเรื่องให้ดี หาแง่มุมมาบอกเล่า เช่น จากนักศึกษาโบราณคดีสู่นักเขียนนิยายแฟนตาซีอาชีพ

44. กิจวัตรในแต่ละวัน – ต่อยอดจากการเล่าเรื่องอาชีพ หลายอาชีพเป็นอาชีพที่คนส่วนใหญ่สนใจ ถ้าเจ้าของอาชีพสามารถบอกเล่าออกมาได้อย่างสนุกว่า ในแต่ละวันพวกเขาทำงานอะไรบ้าง ก็จะช่วยให้เห็นภาพอาชีพนั้นมากขึ้นในรูปแบบที่สนุกขึ้นด้วย

45. สิ่งที่เรียนรู้จากการทดลองหรือประสบการณ์ – แนวคิดหรือไอเท็มใหม่ๆ ได้รับความสนใจเสมอ เช่น วิธีอดอาหารลดน้ำหนัก คูชั่นรองพื้น ขนตาแม่เหล็ก ฯลฯ บทความแนวนี้ยังมักได้รับความเชื่อถือสูงด้วย เพราะเป็นการทดลองด้วยตัวเอง

46. ข้อผิดพลาดจากการทดลองหรือประสบการณ์ – สิ่งที่ได้จากการทดลองหรือประสบการณ์ตรง สามารถเล่าในมุมแคบลง ซึ่งความผิดพลาด ด้านลบ เป็นแง่มุมที่คนอยากรู้อยากเห็นเสมอ เช่น 5 เรื่องพลาดที่คนปลูกกระบองเพชรมักทำโดยไม่รู้ตัว, 20 เรื่องผิดพลาดของเว็บโรงแรม ที่ทำให้แพ้ OTA

47. รายได้ – เรื่องเงินๆ ทองๆ น่าสนใจเสมอ โดยเฉพาะทรัพย์สินของคนอื่นหรืออาชีพที่คนสนใจ ยิ่งถ้าตัวเลขรายได้มากหรือน้อยเกินกว่าการคาดการณ์ของคนทั่วไป ยิ่งน่าอยากรู้ เช่น ตีแผ่รายได้นักเขียนนิยายออนไลน์ ได้สูงสุดต่อเดือนครึ่งล้าน!

48. การพูดในที่ชุมชน – การพูดหรือปาฏกถากำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากใครที่มีประสบการณ์หรือความรู้ ไม่ว่าจะเป็นคนอาชีพไหนสาขาใดก็สามารถพูดแสดงทัศนะได้ ถ้ามีบทพูดหรือการถอดคำพูดแนบกับคลิปการพูดด้วยจะยิ่งดีมาก

49. วิธีเอาชนะจุดด้อย – ทุกคนมีข้อด้อยหรือจุดอยากแก้ไข หากคุณมีคำแนะนำหรือวิธีส่วนตัวที่ช่วยให้ผ่านโจทย์เหล่านี้ได้ แนะนำผู้คนผ่านบล็อกได้

50. เรื่องส่วนตัว – หลายคนมีเรื่องราวน่าสนใจ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่มีจุดพีคสวยๆ หรือความล้มเหลวที่ต้องจดจำ แต่ก็อาจมีแง่มุมเรียบง่ายที่พบเจอได้ในชีวิตประจำวัน เรียบเรียงเนื้อหาให้เป็นลำดับ ความธรรมดาก็น่าอ่านขึ้นมาได้

51. สิ่งที่โปรดปราน – เมนูอาหาร ของใช้ สถานที่ อธิบายสิ่งที่ชอบ ให้เหตุผลว่าทำไมถึงชอบสิ่งนี้ ดึงดูดได้ทั้งคนที่ชอบเหมือนกัน หรือไม่ชอบและอยากฟังความคิดเห็นที่ต่างกัน หรือกำลังหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

เขียนเนื้อหากระตุ้นความคิด สร้างแรงบันดาลใจ

52. ลิสต์การกระทำที่ให้ผลประสบความสำเร็จหรือดี – เราต่างล้วนอยากรู้วิธีการไปสู่ความสำเร็จ ตัวอย่างของสิ่งที่ทำแล้วสำเร็จจึงเป็นเนื้อหาขายดีที่คนอยากรู้ เช่น 5 อีเมลขายของ ที่น่าคลิกอ่าน เปลี่ยนลูกค้าครั้งแรกเป็นลูกค้าประจำได้

53. วิเคราะห์ผลลัพธ์ที่สำเร็จของผู้มีชื่อเสียง – วิเคราะห์ความสำเร็จของคนอื่นและอธิบายเป็นฉากๆ โดยที่ความสำเร็จของเขาอาจจะมีหลายอย่าง ก็ทำเป็นรวมทั้งหมดในบทความเดียว เช่น 9 เว็บขายทัวร์ยอดนิยมที่ WOW ภูมิใจนำเสนอ

54. การทดลองเชิงท้าทาย – การท้าทายให้ทำอะไรสักอย่างหรือ Challenge เป็นหัวข้อการเขียนที่เป็นเทรนด์ในเวลานี้

ผู้เขียนต้องเป็นผู้ริเริ่มว่า ทดลองอะไรสักอย่าง ว่ามันจะให้ผลลัพธ์ตามคำเคลมหรือไม่หรืออยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรในความเป็นจริง โดยการทดลองต้องกำหนดระยะเวลาชัดเจน จึงจะสมบูรณ์

55. คำคม – ประโยคสอนใจ วลีเด็ด เป็นหัวข้อที่ถูกค้นหาในระบบเสมอ ยิ่งถ้ามาจากปากคนดัง ยิ่งได้รับความเชื่อถือ เช่น 15 คำคมโคตรจริงที่ใช้ได้ตลอดกาลโดยนักการตลาดระดับโลก

เขียนบล็อก, การเขียนบทความ, ทำเว็บไซต์, วิธีสร้างบล็อก, การเขียน blog,

เขียนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเวลา

56. เทรนด์ ความสนใจ ของแต่ละช่วงเวลา – เช่น หัวข้อความสนใจของผู้บริโภคช่วงโควิด

57. ข่าว ความคืบหน้าในวงการ – เว็บไซต์ของคุณเกี่ยวข้อกับวงการอะไร เช่น การตลาด เครื่องสำอาง อุตสาหกรรมเหล็ก ฯลฯ นำเสนอข่าว สถิติ รายงานประจำปีที่น่าสนใจ เป็นได้ทั้งแหล่งข่าวและบันทึกที่สามารถดูย้อนหลังได้

58. ผลกระทบจากสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น – กฎหมาย เทคโนโลยี การก่อสร้าง การเปลี่ยนแปลงของหลายสิ่งส่งผลต่อคนหมู่มากได้ เช่น Facebook อัปเดตระบบไทม์ไลน์ใหม่ ส่งผลถึงคนขายของออนไลน์อย่างไรบ้าง

59. ทักษะในอนาคต – ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ก็ต้องอัปเดตความรู้ของตัวเองเสมอ ให้มีความสามารถแข่งขันกับคนอื่นๆ มีคุณค่าในหน้าที่การงาน เช่น 7 ทักษะที่นักการตลาดควรหาเรียนรู้เพิ่มเติมตั้งแต่ตอนนี้

60. สรุปไทม์ไลน์ – วิวัฒนาการของระบบ เหตุการณ์ เป็นข้อมูลชั้นดีของการประเมินอนาคต เช่น สรุปการอัปเดตอัลกอริทึ่ม Facebook ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน

61. พยากรณ์ – อนาคตคือสิ่งไม่มีใครรู้ แต่ทุกคนล้วนอยากรู้ บล็อกแนวคาดการณ์หรือพยากรณ์สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้สามารถนำเสนอได้โดยมีข้อมูลหรือสถิติรองรับ

62. การค้นพบ – ทุกวันนี้ทุกคนสามารถเป็นสื่อได้ด้วยตัวเอง บล็อกบทความสามารถเป็นพื้นที่นำเสนอข่าวใหม่ การค้นพบได้ ยิ่งถ้าสิ่งนี้เป็นคำเตือนหรือข้อควรระวังให้กับคนอื่นได้ บทความนั้นยิ่งมีมูลค่า

63. เหตุตามฤดูกาล – ปีใหม่ สงกรานต์ เข้าพรรษา หรือแม้แต่ต้นปี ครึ่งปี ปลายปี รายเดือน ก็สามารถปั้นเป็นหัวข้อได้

เขียนแสดงความเห็นแย้ง

64. ความเห็นส่วนน้อย – เช่น ใครๆ ก็รักนางเอก แต่ถ้าคุณชอบนางร้าย คุณอาจจะเป็นส่วนน้อย เหตุผลของคนอยู่ข้างตัวร้ายอาจเป็นเรื่องราวที่ไม่ค่อยมีใครรู้ และช่วยให้คนมองเห็นเรื่องราวอีกด้านได้ จะผสมด้วยการเสนอว่า อีกฝ่ายคิดผิดอย่างไรด้วยก็ได้ 

65. จดหมายเปิดผนึก – การเขียนบทความเชิงจดหมายถึงคนดัง ต้องมีประเด็นที่น่าสนใจเป็นตัวตั้งต้น เช่น เว็บไซต์พัฒนาซอฟต์แวร์เขียนจดหมายเปิดผนึกถึง บิล เกตส์ 

66. ความเปลี่ยนแปลงที่อยากให้เกิดขึ้น – ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ และความคิดเห็นของคนตัวเล็กตัวน้อยมีคุณค่า เว็บไซต์สามารถนำ 2 อย่างนี้มารวมกัน สร้างสรรค์เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับตัวเองได้

67. วิจารณ์สาเหตุของความล้มเหลว – ความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องเสียหายหากเรามองเป็นบทเรียน แถมยังนำมาเขียนเป็นบทความได้ด้วย เช่น ความล้มเหลวของ Google+ ทำไมและอย่างไร

หัวข้ออื่นๆ

68. การ์ตูน มีม เรื่องตลก

69. ก-ฮ, A-Z ตัวพยัญชนะของภาษาต่างๆ ที่เล่าถึงหัวข้อหนึ่ง

70. นักเขียนรับเชิญ

เขียนบล็อก, การเขียนบทความ, ทำเว็บไซต์, วิธีสร้างบล็อก, การเขียน blog,

ทำไมหัวข้อดีแต่เขียนแล้วไม่มีคนอ่าน แก้ได้แบบนี้!

อุตส่าห์เขียนบทความดิบดีลงเว็บแต่ไม่มีคนอ่าน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ สาเหตุหลักๆ เกิดจากหัวข้อนี้ไม่มีคนค้นหาในอินเตอร์เน็ต เมื่อไม่มีใครค้นหาประเด็นนี้ หน้าเว็บบทความก็ไม่สามารถมีการเข้าชมจากระบบค้นหา

บทความที่มุ่งเป้าเพื่อสร้างยอดเข้าชม จึงต้องเป็นหัวข้อที่คนค้นหาในระบบค้นหาด้วย ส่วนสิ่งที่ต้องทำนอกจากนี้ก็เช่น

ทางแก้แรก : สำรวจคำค้นที่จะใช้เขียนในบทความ

สำรวจว่าคำค้นที่ใช้เขียนในบทความมีคนค้นหาไหมหรือ Keyword research โดยการใช้เครื่องมือค้นหาคำค้น ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและมีค่าสมัครสมาชิก

คำค้นที่ดีควรมีจำนวนการค้นหาขั้นต่ำ 1,000 ครั้ง และความยากง่ายของการใช้คำค้นไม่เกินระดับ 10 หรือไม่มากจนเกินไป

ทางแก้สอง : เรียนรู้จากคู่แข่ง

เข้าไปที่เว็บคู่แข่งของคุณ และดูที่บทความยอดนิยมของเขา (แต่ละหัวข้อบทความที่เห็น มีคำค้นที่น่าใช้ซ่อนอยู่ด้วย! เราจะใช้หรือจะเอาไปค้นหาเพิ่มเติมเพื่อหาคำที่ดีกว่าก็ได้)

ทางแก้สาม : ค้นหาบทความยอมนิยม

งานนี้ต้องใช้เครื่องมือหาคำค้นช่วย เครื่องมือหาคำค้นส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ สามารถใช้ค้นหาบทความได้ โดยสามารถคัดกรองได้ทั้งช่วงเวลาที่เผยแพร่ จำนวนเข้าชมขั้นต่อต่อเดือน ฯลฯ 

WOW ส่งท้าย

บทความที่มียอดเข้าชมสูง เกิดจากหัวข้อน่าสนใจ มีสาระ มีความแตกต่าง ที่ดึงดูดให้คนอ่าน กับอีกส่วนคือการใช้คำค้นที่มีคนค้นเป็นจำนวนที่มากพอ WOW ยังมีบทความสอนทำ SEO และการตลาดออนไลน์อีกมากมายที่อัปเดตเป็นประจำทุกสัปดาห์ รวมถึงให้คำปรึกษาด้านการทำเว็บไซต์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ก่อนทำเว็บไซต์จริง เพื่อให้เว็บที่ได้เป็นเว็บที่ให้คุณค่ากับคุณและธุรกิจอย่างคุ้มค่าที่สุด

 

อ้างอิง :

ahrefs.com

อยากทำเว็บไซต์ธุรกิจที่ช่วยสร้างยอดขายได้จริง ปรึกษา WOW ฟรีที่นี่

รับบทความใหม่ ไปอ่านก่อนใครไหม?

ทำธุรกิจออนไลน์ด้วยความรู้อัปเดต เข้าใจง่าย ได้ยอดขายดีจริงๆ กันดีกว่า!

บทความน่าอ่านในหมวดเดียวกัน

SEO-Tour-Tourism
Marketing

SEO เครื่องมือการตลาดที่มีคุณค่าสำหรับบริษัททัวร์และธุรกิจท่องเที่ยว

SEO เครื่องมือการตลาดที่มีคุณค่าสำหรับบริษัททัวร์และธุรกิจท่องเที่ยว   ในแวดวงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจทัวร์ การปรับใช้ SEO (Search Engine Optimization) ถือเป็นกลยุทธ์หลักที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณฝ่าด่านการแข่งขันและก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ อย่างง่ายดาย  SEO คือ กระบวนการที่จะช่วยยกระดับเว็บไซต์ สินค้า โปรแกรมทัวร์ และคอนเทนต์ออนไลน์ของคุณให้ปรากฏอยู่ในอันดับต้นๆ ของหน้าผลการค้นหา การทำ SEO นั้นเกี่ยวข้องกับการเลือกคำหลักที่เหมาะสม การสร้างลิงก์ที่มีคุณค่า และอีกหลากหลายวิธีการ เพื่อเพิ่มความเห็นได้ของเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของคุณ ความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อลูกค้าเป้าหมายค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมทัวร์ที่คุณนำเสนอ

why-SEO- is-important-for-business
Marketing

10 เหตุผล ทำไมการทำ SEO ถึงสำคัญกับธุรกิจ

ทำไมการทำ SEO ถึงสำคัญ กับธุรกิจและลูกค้าของคุณ ทำไมการทำ SEO ถึงสำคัญ ? การทำ SEO สำคัญ เพราะการทำ SEO คือการเพิ่มโอกาสให้กลุ่มเป้าหมาย เห็นสินค้าและบริการของคุณมากกว่าเว็บที่ไม่ได้ทำ SEO เว็บไซต์ของคุณอาจไม่มีใครมองเห็นเลย ค้นหาก็ไม่เจอ ถ้าไม่ได้ทำ SEO หรือมองเห็นน้อยกว่าเว็บที่ทำเนื้อหาเดียวกัน เพราะไม่มีองค์ประกอบของ SEO เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น