5-reason-why-should-never-depend-on-social-media-marketing-alone

ต้องอ่าน 5 เหตุผล ทำไมธุรกิจไม่ควรพึ่ง Social Media Marketing เพียงอย่างเดียว

ธุรกิจส่วนใหญ่ทุกวันนี้พาตัวเองเข้าไปอยู่ใน Social Media เพื่อสร้างตัวเองให้เจอกับผู้คนหมู่มาก ที่มีผู้คนที่สามารถเป็น “ลูกค้า” ของพวกเขาด้วย ได้รู้จักตัวธุรกิจและสินค้าหรือบริการที่ผลิตขึ้นมา ซึ่งทุกวันนี้ต่อยอดไปจนกระทั่งทำการซื้อขายกันบนแพลตฟอร์มนั้นเลย ทั้งหมดนี้รวมๆ เรียกว่า “การตลาดโซเชียลมีเดีย” หรือ Social Media Marketing

แต่ถึงดีอย่างที่เล่ามา ธุรกิจที่อยากประสบความสำเร็จบนตลาดออนไลน์ ไม่ควรพึ่งพา Social Media เป็นช่องทางเดียวในการทำการตลาดหรือสร้างธุรกิจให้เติบโต

เพราะอะไร? บทความนี้ WOW จะอธิบายวิธีการทำงานของ Social Media Marketing ข้อดี ข้อเสีย และวิธีแก้ไขข้อเสีย ที่เข้าใจง่ายและเห็นภาพชัดที่สุด

Social Media Marketing คือ อะไร?

Social Media Marketing คือ การทำการตลาดโดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครืองมือหรือสื่อกลางในการสื่อสาร โน้มน้าว หรือเป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าและบริการ

การตลาดด้วยโซเชียลฯ จะเน้นเรื่องของการ “ทำคอนเทนต์” เพื่อสร้างตัวตนแบรนด์ขึ้นมาและโฆษณาให้เป็นที่รู้จัก พูดคุยกับผู้เข้ามาในพื้นที่โซเชียลของตัวเอง (หรือบางครั้งก็เข้าไปพูดคุยในพื้นที่ของคนอื่น แล้วแต่โอกาส)

นอกจากนี้ยังใช้สร้างประเด็นการพูดคุยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ (หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องเพื่อโยงเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ก็ได้) เพิ่มยอดขาย เช่น ประชาสัมพันธ์โปรโมชัน และเรียกคนเข้าเว็บไซต์ของธุรกิจได้ ซึ่งเป็นช่องทางออนไลน์หลักของธุรกิจที่สำคัญ

ข้อดีของการใช้ Social Media ในการทำ Marketing

  1. เข้าถึงผู้คนได้เยอะและกว้าง

โซเชียลมีเดียช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ และคนที่อาจจะเป็นลูกค้าของธุรกิจได้ในอนาคต ทั้งที่รู้จักแบรนด์อยู่แล้วหรือไม่รู้จักมาก่อน

เคล็ดลับในการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น คือ เลือกใช้โซเชียลมีเดียให้ถูกประเภท เช่น กลุ่มเป้าหมายของบางธุรกิจอาจจะอยู่ใน TikTok หรือ Twitter มากกว่า Facebook เป็นต้น

  1. พูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและไว

เพราะกลุ่มเป้าหมายมักติดตามโซเชียลมีเดียของแบรนด์อยู่แล้ว หากต้องการบอกเล่าอัพเดตเกี่ยวกับธุรกิจ หรือโปรโมทสินค้าหรือโปรโมชันใหม่ ก็แค่โพสต์ลงโซเชียลมีเดียได้เลย

หรือหากมีกรณีพิเศษ เช่น การโต้เถียงพิพาท ก็สามารถใช้พื้นที่ตรงนี้อธิบายเพื่อยุติเรื่องได้อย่างรวดเร็ว

สำคัญที่สุด โซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่แสดงความคิดเห็นได้ง่าย ทั้งการคอมเมนต์ กดไลค์ รีทวีต เมนชัน ฯลฯ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจหรือบริษัท ได้เสียงตอบรับหรือ Feedback ที่ไวขึ้น ซึ่งก็นำไปปรับใช้หรือสร้างสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ไวขึ้นเช่นกัน

  1. สร้างความสัมพันธ์และผูกพันต่อธุรกิจ

ความสัมพันธ์ที่ดีและความผูกพันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อ ช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางที่ผู้คนเข้าถึงได้ง่ายและแบรนด์ก็สื่อสารได้สะดวก

ยิ่งลูกค้ากลุ่มเป้าหมายกับธุรกิจพูดคุยสื่อสารกันมากเท่าไหร่ ยิ่งยกระดับความสัมพันธ์หรือเพิ่มความผูกพันระหว่างกันมากขึ้นเท่านั้น

  1. ใช้ทำโฆษณาแบบเสียเงิน

การโฆษณาบนโลกออนไลน์มีทั้งแบบธรรมชาติหรือ Organic กับแบบเสียเงิน หรือ Paid advertising ซึ่งโซเชียลมีเดีย แม้ว่าจะเป็นพื้นที่ที่กลุ่มเป้าหมายเลือกที่จะติดตามอยู่แล้ว

แต่ด้วยหลายปัจจัยทำให้หากธุรกิจต้องการเข้าถึงคนให้มากขึ้น จะต้องใช้เงินในการกระจายสู่กลุ่มคนที่กว้างขึ้นหรือเพิ่มการมองเห็น

การใช้โซเชียลมีเดียทำ Paid advertising ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ เพิ่มผู้ติดตามใหม่ ไปจนถึงการสร้างยอดขายให้ธุรกิจได้ด้วย

ข้อจำกัดหรือสิ่งที่ต้องคำนึงในการใช้ Social Media Marketing

  1. จำกัดการเก็บและดึงฐานข้อมูลลูกค้า

แม้ทุกวันนี้โซเชียลมีเดียจะพยายามสร้างระบบเก็บข้อมูลเชิงลึกหรือ Insight เพื่อเก็บและบันทึกฐานข้อมูลลูกค้าแล้ว แต่ก็อาจไม่ครบถ้วนพอสำหรับการวิเคราะห์ธุรกิจ เช่น จุดที่ลูกค้าทิ้งตะกร้าสินค้า

ซ้ำร้ายบางข้อมูลที่ธุรกิจต้องการอาจจะหายไปวันใดวันหนึ่งก็ได้ เนื่องจากระบบเก็บข้อมูลลูกค้าเป็นระบบของโซเชียลมีเดีย ที่ธุรกิจไม่สามารถควบคุมหรือจัดการได้เลย 100%

หรือการดึงฐานข้อมูลมาเพื่อวิเคราะห์อย่างละเอียดหรือทำรายงานความก้าวหน้าของธุรกิจอาจไม่สะดวกอย่างที่ธุรกิจต้องการ

  1. ต้องใช้เวลาเยอะ

แม้โซเชียลมีเดียจะเปิดให้ใช้ฟรี แต่การทำความเข้าใจวิธีการใช้งานระบบให้คล่องแคล่วและเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจจริงๆ ต้องใช้เวลา ที่มักไม่จบไม่สิ้น เพราะโซเชียลมีเดียทุกประเภทมักมีการอัพเดตระบบบ่อยครั้ง โดยยึดเอาประโยชน์ของโซเชียลมีเดียเป็นหลักมากกว่าเรื่องอื่น

รวมถึงการใช้เวลาสร้างคอนเทนต์เพื่อลงโซเชียลฯ เช่นกัน ที่ต้องทำบ่อยกว่าช่องทางเว็บไซต์ เนื่องจากระบบอัลกอริทึ่ม (Algorithm) ของโซเชียลมีเดียจะพัดคอนเทนต์ให้ผ่านไปไว หรือปิดกั้นการมองเห็น ซึ่งส่งผลเสียต่อคอนเทนต์ของธุรกิจ

ถ้าไม่อยากให้ธุรกิจหายไปจากกระแสโซเชียลฯ ก็ต้องทำคอนเทนต์ให้บ่อยขึ้น หรือคิดคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาดีมาก ทั้งสองต้องใช้เวลามากทั้งคู่

  1. ขาดพลังความน่าเชื่อถือของแบรนด์ต่อลูกค้า

ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เป็นองค์ประกอบสำคัญของธุรกิจขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ที่จะนำพากลุ่มเป้าหมายที่จะสร้างยอดขายหรือรายได้เข้ามาหาธุรกิจ มากหรือน้อย ความน่าเชื่อถือจึงเป็นตัวชี้วัดหลักที่มองข้ามไม่ได้

จึงไม่แปลกที่ธุรกิจเหล่านี้จะมีช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นของตัวเอง และในเวลาเดียวกันก็สร้างเว็บไซต์ของตัวเองเพื่อให้เป็นพื้นที่ออนไลน์อย่างเป็นทางการ ที่ดูมั่นคง มีหลักแหล่ง และมีหลักมีฐานมากกว่าโซเชียลมีเดียทุกประเภท

หากแม้ว่าคุณจะยังเป็นธุรกิจขนาดเล็กในเวลานี้ แต่ถ้ามีเป้าหมายในวันข้างหน้าที่จะเติบโตเป็นแบรนด์ขนาดใหญ่การสร้างความน่าเชื่อถือ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเริ่มทำตั้งแต่เนิ่นๆ

  1. เกิดพื้นที่แสดงข้อมูลแง่ลบต่อธุรกิจ

เนื่องจากโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่เปิดกว้าง ทำให้ธุรกิจไม่สามารถควบคุมคุณภาพของข้อมูลที่ถูกพูดถึงได้ 100% เมื่อเทียบกับเว็บไซต์ที่สามารถควบคุมข้อมูลที่พูดเชิงบวกต่อธุรกิจ และตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการหาข้อมูลสินค้าบนโลกออนไลน์มากกว่า

ในหลายกรณี ข้อมูลจากภายนอกจู่โจมหรือทำร้ายภาพลักษณ์ของธุรกิจ เช่น รีวิวคะแนนต่ำ คอมเมนต์ด่าทอ ฯลฯ

หากตัดสินใจใช้โซเชียลมีเดีย ต้องยอมรับผลเสียด้านนี้ และหันไปโฟกัสที่การตอบโต้อย่างฉลาด กู้สถานการณ์ให้กลับมาเป็นปกิต หรือพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสให้ได้

อีกข้อควรจำสำหรับเรื่องนี้ คือ ยิ่งมีโซเชียลฯ หลายประเภทหรือพึ่งพามากเท่าไหร่ ยิ่งต้องใช้เวลาหรือทุ่มทรัพยากรมาควบคุมกำกับมากขึ้นเท่านั้น

  1. แสดงสินค้าได้จำกัด

โซเชียลมีเดียหลายประเภทมีพื้นที่แสดงสินค้าหรือร้านค้า แต่ยังมีข้อจำกัดหลายเรื่อง เช่น การจัดหมวดหมู่สินค้าที่สะเปะสะปะ จำกัดจำนวนสินค้า พื้นที่ใส่ข้อมูลไม่พอ และมุมมองภาพสินค้าไม่ชัด ซึ่งเป็นเรื่องที่มักพบบ่อยและเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดของธุรกิจแล้วในการขายสินค้าบนโซเชียลมีเดียซึ่งเว็บไซต์แก้ข้อจำกัดนี้ได้ด้วยพื้นที่แสดงผลที่ชัดเจน เป็นหมวดหมู่ และเชื่อมต่อกับระบบตะกร้าสินค้าและชำระเงินครบในตัว

อยากทำเว็บไซต์ธุรกิจที่ช่วยสร้างยอดขายได้จริง ปรึกษา WOW ฟรีที่นี่

รับบทความใหม่ ไปอ่านก่อนใครไหม?

ทำธุรกิจออนไลน์ด้วยความรู้อัปเดต เข้าใจง่าย ได้ยอดขายดีจริงๆ กันดีกว่า!

บทความน่าอ่านในหมวดเดียวกัน

SEO-Tour-Tourism
Marketing

SEO เครื่องมือการตลาดที่มีคุณค่าสำหรับบริษัททัวร์และธุรกิจท่องเที่ยว

SEO เครื่องมือการตลาดที่มีคุณค่าสำหรับบริษัททัวร์และธุรกิจท่องเที่ยว   ในแวดวงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจทัวร์ การปรับใช้ SEO (Search Engine Optimization) ถือเป็นกลยุทธ์หลักที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณฝ่าด่านการแข่งขันและก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ อย่างง่ายดาย  SEO คือ กระบวนการที่จะช่วยยกระดับเว็บไซต์ สินค้า โปรแกรมทัวร์ และคอนเทนต์ออนไลน์ของคุณให้ปรากฏอยู่ในอันดับต้นๆ ของหน้าผลการค้นหา การทำ SEO นั้นเกี่ยวข้องกับการเลือกคำหลักที่เหมาะสม การสร้างลิงก์ที่มีคุณค่า และอีกหลากหลายวิธีการ เพื่อเพิ่มความเห็นได้ของเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของคุณ ความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อลูกค้าเป้าหมายค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมทัวร์ที่คุณนำเสนอ

อัปเดทเว็บไซต์-รับทำเว็บไซต์บริษัททัวร์
Marketing

การอัปเดตเว็บไซต์ คุณพร้อมรับมือกับการแข่งขันในยุคดิจิทัลแล้วหรือยัง?

การอัปเดตเว็บไซต์ คุณพร้อมรับมือกับการแข่งขันในยุคดิจิทัลแล้วหรือยัง?    การอัปเดทเว็บไซต์ คือการลงทุนที่สำคัญในยุคดิจิทัล เช่นเดียวกับการที่เราอัปเดทมือถือเพื่อความเร็วและฟีเจอร์ใหม่ๆ เว็บไซต์ที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอสามารถทำให้ธุรกิจของคุณดูไม่น่าเชื่อถือ สูญเสียความได้เปรียบทางการแข่งขัน และที่สำคัญที่สุดคือข้อมูลสำคัญอาจถูกคุกคามด้านความปลอดภัย เว็บไซต์ที่ทันสมัยและปลอดภัยช่วยให้ลูกค้ามั่นใจและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ เช่นเดียวกับการดูแลมือถือของเราที่ต้องการความใส่ใจ การอัปเดทเว็บไซต์ก็เป็นกระบวนการที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างลงตัวและปลอดภัย การดูแลเว็บไซต์อย่างต่อเนื่องนั้นไม่เพียงแต่จะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา แต่ยังเป็นการเพิ่มมูลค่าและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าของคุณอีกด้วย    การอัปเดทเว็บไซต์ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเว็บไซต์คือหน้าต่างที่เปิดโลกของธุรกิจสู่สายตาผู้คนนอกโลกออนไลน์ การรักษาให้มันทันสมัย ไม่เพียงแต่จะทำให้เราไม่ตกเทรนด์ แต่ยังช่วยรักษาความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับข้อมูลของลูกค้าที่สำคัญยิ่ง การดูแลเว็บไซต์ไม่ต่างอะไรจากการดูแลมือถือของเรา ที่ต้องการความใส่ใจและการอัปเดตอยู่เสมอ เพื่อให้การทำงานนั้นไหลลื่นและเป็นไปอย่างมั่นคง.